วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

สูตรพอกหน้ารักษากระ




แบบที่ 1

ก่อนอื่นล้างหัวไชเท้าให้สะอาด นำมาฝานบางๆ เป็นชิ้นๆ จากนั้นนำมาถูที่ใบหน้าเบาๆประมาณ 5 นาที เสร็จแล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด แล้วจึงทาครีมบำรุงผิดตามปกติ ทำเป็นประจำกระ จะค่อยๆจางไปในที่สุด แต่ของอย่างนี้ต้องใช้เวลาหน่อยนะคะ ผลที่ออกมาขอบอกว่าคุ้มค่ากับการรอคอยมากๆเลยคะ

แบบที่ 2 (สูตรพอกหน้า)

สูตรนี้เหมาะสำหรับสาวๆที่มีผิวแพ้ง่ายคะ
  1. น้ำมะนาว 1/2 ช้อนโต๊ะ หัวไช้เท้า 1/2 ปั่นให้ละเอียด เป็นเนื้อเดียวกัน

  2. นำไปพอกบริเวณใบหน้า ทิ้งไว้สักประมาณ 15-20 นาที

  3. ล้างออกด้วยน้ำอุ่น

ในขณะที่พอกคุณอาจจะรู้สึกตึงและคันเล็กน้อยเนื่องจากกรดในน้ำมะนาว และสารเคมีในหัวไช้เท้า กำลังทำงานอยู่ซึ่งไม่ เป็นอันตรายแต่อย่างใด หัวไชเท้ามีประโยชน์จะช่วยให้ผิวของคุณขาวกระจ่างใส และสดใสเปล่งปลั่งขึ้นคะ

................................................
ที่มา : http://www.tlcthai.com/ ขอบพระคุณสำหรับบทความดีๆนะเจ้าคะ
ภาพประกอบเนื้อหา : www.rakbankerd.com

สูตรพอกหน้าลดสิวเสี้ยน



สูตรนี้เหมาะสำหรับสาวๆที่มีปัญหาสิวสี้ยนคะ


  1. ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น เช็ดหน้าให้แห้ง

  2. นำกล้วยหอมครึ่งลูก บดผสมกับน้ำผึ้ง

  3. ทาบนใบหน้าทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออก

น้ำผึ้งมีเอนไซม์ที่ทำให้หน้าคุณชุ่มชื่นนุ่มนวลขึ้น และยังบำรุงผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์อีกด้วยคะ

................................................
ที่มา : social.eduzones.com ขอบพระคุณสำหรับบทความดีๆนะเจ้าคะ
ภาพประกอบเนื้อหา : women.sanook.com

สูตรพอกหน้าสำหรับสาวผิวมัน


สูตรนี้เหมาะสำหรับสาวๆที่มีผิวหน้ามัน ควรลองทำสัปดาห์ละ 1 ครั้งนะคะ


  1. นำมะเขื่อเทศสด 1 ผลมาสับหรือบดให้ละเอียด พอกหน้าทิ้งไว้ 10-20 นาที

  2. ล้างออกด้วยน้ำอุ่น ตามด้วยกระชับรูขุมขนด้วยการใช้น้ำเย็นล้างซ้ำอีกรอบ

  3. ขัดหน้าเบาๆด้วย เนื้อมะเขือเทศ เพราะวิตามินซี และกรดผลไม้(AHA) ในมะเขือเทศจะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป จึงทำให้สิวเสี้ยนน้อยลง และ วิตามินต่างๆในผลมะเขือเทศสดจะช่วยบำรุงผิวได้เป็นอย่างดีคะ

................................................
ที่มา : vinegargirl.com ขอบพระคุณสำหรับบทความดีๆนะเจ้าคะ
ภาพประกอบเนื้อหา : www.hometophit.com

สูตรพอกหน้าขาวใส 2


สูตรนี้เป็นสูตรแบบหน้าขาวใสฉบับสาวเปรี้ยวๆคะ เปรี้ยวที่ Yayoi ว่าคือเปรี้ยวด้วยมะนาวนะคะ สูตรนี้เป็นยังไงไปดูกันเลย..


  1. น้ำมะนาว 1 ลูกน้ำมะนาวฝรั่ง(Lemon) 1 ลูกน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะโยเกิร์ต 2 ช้อนโต๊ะนำส่วนผสมทั้งหมดมาผสมกัน

  2. ทาทั่วทั้งใบหน้า (อาจนวดได้เบาๆ) ประมาณ 10 นาที จะทำให้ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ น้ำมะนาว มีสภาพเป็นกรดอ่อนๆ อาจทำให้เกิด อาการระคายเคืองหรือผิวหน้าแห้งได้ ไม่ควรทำบ่อยเกินอาทิตย์ละครั้งนะคะ


................................................
ที่มา : หนังสือ Feeling Good ของคุณ พาย ภัทรียา ณนคร ขอบพระคุณสำหรับบทความดีๆนะเจ้าคะ
ภาพประกอบเนื้อหา : www.svgopen.org

สูตรพอกหน้าขาวใส 1




สูตรนี้เหมาะสำหรับสาวๆที่อยากมีผิวขาวใส สาวๆคนไหนอยากมีผิวขาวใสอมชมพูมาลองทำสูตรนี้กันเลยคะ


มาเตรียมส่วนผสมกันก่อนนะคะ


สตอรเบอรี่ 2 ลูก /แตงกวาผ่าครึ่ง 1 ซีก / น้ำมะนาว 1 ช้อนชา /น้ำขิงสดควรคั้นจากราก


วิธีทำ


นำส่วนผสมทั้งหมดมาปั่นรวมกัน เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้วให้นำมาพอกทั่วทั้งใบหน้า ยกเว้นบริเวณรอบดวงตาเป็นเวลาประมาณ 10 นาที (อาจรู้สึกแสบนิดๆ แต่ถ้าแสบมากควรรีบล้างออกทันที) ทิ้งไว้ครบ 10 นาทีแล้วล้างออก อาจทำเป็นประจำสัปดาห์ละครั้งหน้าก็จะขาวใสสมใจสาวๆที่อยากสวยทุกคนเลยค้า...


................................................
ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก ขอบพระคุณสำหรับบทความดีๆนะเจ้าคะ
ภาพประกอบเนื้อหา : kunglek.blogspot.com

สูตรพอกหน้าลดจุดด่างดำ


ใครมีปัญหาเรื่องจุดด่างดำลองนำสูตรนี้ไปใช้กันดูนะคะ


  1. โลชั่นลดจุดด่างดำ ปั่นเมล็ดข้าวโพด 1 ถ้วยกับน้ำต้ม 1/3 ถ้วยจนละเอียด

  2. กรองเอาแต่น้ำ ผสมน้ำมะนาว 2 ช้อนชาและน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน

  3. ทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 20 นาที

  4. ทาทับอีกครั้งแล้วทิ้งไว้อีก 15 นาที

  5. ล้างออกด้วยน้ำเย็น

................................................
ที่มา : healthandcuisine.com ขอบพระคุณสำหรับบทความดีๆนะเจ้าคะ
ภาพประกอบเนื้อหา : http://www.worldcommunitycookbook.org/

สูตรพอกหน้าสำหรับผิวแห้งและผิวหลังโดนแดด



สูตรนี้เหมาะสำหรับสาวผิวแห้ง และสาวที่มีปัญหาผิวคล้ำหลังจากการโดนแดดคะ


  1. ใช้เปลือกกล้วยหอมสุก 1 ผล ล้างให้สะอาดแล้ว หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ

  2. เติมน้ำนมสดลงไปประมาณครึ่งถ้วย บดให้ละเอียดเข้ากัน

  3. ทาให้ทั่วใบหน้าแล้วทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที

นอกจากประโยชน์ข้างต้นแล้ว สูตรนี้สามารถขจัดสิ่งสกปรกที่อยู่ตามรูขุมขนของคุณได้คะ

................................................

ภาพประกอบเนื้อหา : gotoknow.org/file/nithimar/view/171197 ขอบพระคุณสำหรับภาพสวยๆนะเจ้าคะ

สูตรพอกหน้ากำจัดสิวหัวดำ



แม้สิวหัวดำจะเป็นเพียงสิวจุดเล็กๆ แต่ก็สร้างปัญหากวนใจให้สาวๆอยู่ไม่น้อย ถ้าใครมีปัญหาสิวหัวดำลองนำสูตรนี้ไปทำรับรองว่า ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปคะ


  1. ใช้น้ำผึ้งประมาณ 1 ช้อนชา อุ่นด้วย ไฟอ่อน ๆ ประมาณ ครึ่งนาที

  2. ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที

  3. เช็ดออกด้วยสำลีแล้วล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น จะรู้สึกว่าผิวหน้านุ่มเนียนขึ้น

วิธีนี้ช่วยกำจัดสิวหัวดำและจุลินทรีย์ที่หมักหมมอยู่ตามขุมชนได้หมดจด ช่วยให้เลือดลม เดินดีขึ้นด้วย


................................................
ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก ขอบพระคุณสำหรับบทความดีๆนะเจ้าคะ
ภาพประกอบเนื้อหา : seedlife.htc.ac.th/

วิธีลดเลือนแผลเป็นจากสิว

สาวๆคนไหนกลุ้มใจกับปัญหาแผลเป็นจากสิว รับรองว่าแอปเปิ้ลช่วยคุณได้เจ้าคะ
  1. ก่อนอื่นต้องล้างหน้าให้สะอาด ซับให้แห้ง
  2. ใช้เนื้อแอปเปิ้ลเขียวครึ่งผล ผสมกับ น้ำผึ้งแท้ 1 ช้อนโต๊ะ
  3. บดรวมกันให้ละเอียดเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ทาให้ทั่วใบหน้า เน้นเป็นพิเศษบริเวณที่เป็นแผลเป็น ทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออก

เปลือกแอปเปิ้ลเขียวอุดมไปด้วยวิตามินบำรุงผิว พอมาผสานกับน้ำผึ้งที่มีสารฆ่าเชื้อตามธรรมชาติ ยิ่งทำให้เกิดปัญหาสิวน้อยลง แถมยังบำรุงผิวไปพร้อมๆ กันด้วย นะคะ


.........................................................................................................

ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก ขอบพระคุณสำหรับบทความดีๆนะเจ้าคะ


ภาพประกอบเนื้อหา : www.9entertain.com

สูตรกระชับรูขุมขน



ใครจะไปคิดว่าเจ้าไข่ใบกลมๆ นอกจากจะอร่อยแล้วยังสามารถทำให้เราสวยปิ๊งได้อีกต่างหาก สำหรับสาวๆที่มีปัญหารูขุมขนกว้างก็หมดกังวลไปได้เลยคะ เพราะ Yayoi มีเคล็ดลับดีๆจากเจ้าไข่ใบจิ๋ว แต่ประโยชน์ไม่จิ๋วมาฝากกันคะ


  1. ให้ล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดก่อน หรืออาจจะใช้น้ำนมก็ได้ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผิวสดชื่น
  2. จากนั้นตอกไข่ใส่ชาม แยกไข่ขาวออกจากไข่แดง
  3. ใช้เฉพาะไข่ขาวทาบนใบหน้า ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น
  4. จากนั้นก็ทามอยส์เจอไรเซอร์ปิดท้าย


...............................................................................................................


ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ขอบพระคุณสำหรับบทความดีๆนะเจ้าคะ


ภาพประกอบเนื้อหา : http://www.natui.com/